การใช้ชีวิตแบบ Slow life ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความชอบบางคนต้องการใช้ชีวิตแบบสบาย ไม่ต้องเร่งรีบเข้า-ออกงาน ไม่ต้องฝ่าฝูงคนไปทำงานที่ต้องทนเดินเบียดกันทุกวันแถมรถยังติดอีกด้วย ไม่ต้องรีบกิน ไม่ต้องรีบเที่ยว ขอแค่นั่งทำงานในร้านกาแฟ นั่งจิบกาแฟ ตามหาร้านกาแฟชมธรรมชาติก็เพียงพอแล้ว บางคนอาจจะชอบอยู่นอกเมือง ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ชมธรรมชาติแบบชิลๆ นั่นก็คือความสุขและ life style ของแต่ละคน แล้วความหมายจริงๆของ Slow life คืออะไรกันแน่ อยากใช้ชีวิตแบบ Slow life ต้องทำอย่างไรบ้าง
สารบัญเนื้อหา
แนวทางการใช้ชีวิตแบบ Slow Life
Slow life คืออะไร
เพราะความหมายที่แท้จริงแล้ว ไม่ใช่การใช้ชีวิตแบบน่าเบื่อ ทำอะไรเชื่องช้าหรือล้าหลัง แต่มันคือการสร้างความสมดุลในการวางแผนใช้ชีวิต ที่อาจจะมีบ้างบางช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ แต่ไม่ได้รีบทุกวันหรือตลอดเวลา แต่ควรจัดการวางแผนว่าสิ่งไหนควรรีบทำ สิ่งไหนทำทีหลังได้ ที่สำคัญเราไม่จำเป็นต้องวิ่งตามวัตถุนิยม ไม่ต้องตามกระแส เพียงแค่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่วุ่นวายได้แบบสบายๆ แบบนี้แหละที่เรียกว่า Slow Life ที่แท้จริง
แนวทางการใช้ชีวิตแบบ Slow life
- อยู่ต่างจังหวัด
- ใช้ชีวิตในเมืองกรุง
- หยุดโลกโซเชียลชั่วคราว
- ทำอาหารเอง
- ท่องเที่ยวสูดอากาศธรรมชาติ
- วางแผนเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง
- จัดลำดับความสำคัญ
- มองโลกในแง่ดี
ใช้ชีวิตต่างจังหวัด
หลายคนที่เข้ามาทำงาน มาเรียนในเมืองกรุง หรือแม้กระทั้งคนในเมืองเอง ต้องเจอปัญหารถติด ฝุ่นควันอยู่ทุกวัน ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าเบื่อหน่ายแก้ไม่ได้สักทีและต้องทนอยู่กับมันไป มองหาทางออกโดยการลองไปใช้ชีวิตที่ต่างจังหวัด ตื่นเช้า ชมธรรมชาติแบบชิลๆ ทำสวนหรือเลี้ยงสัตว์ แต่การใช้ชีวิตแบบนั้นต้องมีการวางแผนระยะยาว มีเงินเก็บมากพอสมควร
ใช้ชีวิตในเมืองกรุงซื้อของหรือเที่ยวได้แบบไม่ต้องกังวล
เป็นความฝันของคนหลายคนรวมถึงเด็กจบใหม่ที่ยังติดเพื่อน ติดเที่ยวอยู่ อยากใช้ชีวิตแบบไปเที่ยวกับเพื่อน ไปกินข้าวกับเพื่อน ซื้อของนู้นนี่นั่นที่อยากได้มากมายแบบไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ซึ่งเป็นการชีวิตที่บางคนยอมจ่ายมากเพื่อซื้อความความสุขให้ตัวเองในช่วงเวลาสั้นๆ แต่จะทำแบบนั้นได้ก็ต้องมีเงินเก็บมากพอสมควร และรายได้ของคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มากจากธุรกิจส่วนตัว
หยุดโลกโซเชียลชั่วคราว
ในยุคปัจจุบันแน่นอนใครหลายคนต้องใช้โซเชียลที่ช่วยให้การติดต่อสื่อสารง่ายและสะดวกมากขึ้น อยากให้ลองใช้ชีวิตแบบไม่มีโซเชียลสักวัน อาจจะเลือกเป็นวันหยุดก็ได้เพราะไม่จำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกับใคร แล้วหันมาทำงานอดิเรกหรือสิ่งที่คิดอยากจะทำแต่ไม่มีเวลาสักที เช่น อ่านหนังสือเล่าเก่าที่เคยซื้อไว้ยังไม่ได้อ่านหรือเคยอ่านแล้ว ทำอาหารหรือทำในสิ่งทีเราอยากลองมานานแต่ไม่มีเวลาทำสักทีเพราะมัวแต่เล่นโซเชียล เห็นมั้ยว่าแค่เราหยุดเล่นโซเชียลทำให้เราได้มีเวลาทำสิ่งต่างๆมากมายอีกเยอะ
ทำอาหารเอง
หากนึกถึงการใช้ชีวิตแบบ Slow life ต้องไม่พ้นการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์เองอย่างแน่นอน ตั้งแต่การปลูกพืชผักสวนครัว รับรอง ปลอดภัย ไร้สารพิษเพราะฝีมือเราปลูกเอง ทำอาหารใส่กล่องข้าวไว้กินมือเที่ยงที่ทำงาน ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องรอคิวร้านอาหาร ส่วนเวลาที่เหลือตอนพักเที่ยงก็พักผ่อนร่างกายหรือทำอะไรอย่างอื่นได้อีก
ท่องเที่ยวสูดอากาศธรรมชาติ
ทั้งชีวิตเราไม่ควรทำงานเพื่อเก็บเงินอย่างเดียว หาเวลาท่องเที่ยวหรือพักผ่อนให้กับร่างกายและเติมความสุขให้กับชีวิตบ้าง หากมัวแต่ทำงานอยู่ใช้ชีวิตแบบจำเจ ทั้งร่างกายและสภาพจิตใจก็จะเสื่อมลง ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน หาสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน วิวธรรมชาติสวยๆ อากาศดีๆ ไม่ว่าจะเป็นที่สวนสาธารณะ ภูเขา ทะเล ที่ให้คุณได้ไปสูดอากาศเต็มปอด พร้อมเติมพลังกลับมาทำงาน แถมยังได้ลองสังเกตสิ่งรอบข้างให้มากขึ้นด้วย
แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ
วางแผน เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง
หากเราเตรียมตัวและวางแผนให้พร้อมก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะไปเรียน ไปทำงาน หรือเที่ยว เราจะมีเวลามากขึ้นกว่าเดิม ให้ลองวางแผนล่วงหน้า ช่วงกลางคืนจัดกระเป๋า วางแผนว่าพน.จะใส่ชุดอะไร ตอนเช้าจะไม่ต้องคิดหรือเตรียมของให้เสียเวลา แถมยังมีเวลานอนต่อเพิ่มได้อีกสัก 5นาทีด้วย แต่ในทางตรงกันข้ามหากเราไม่เตรียมให้พร้อม ไม่วางแผน ตื่นเช้าขึ้นมาเราต้องรีบอาบน้ำ แต่งตัว ทานข้าวสุดท้ายอาจจะลืมนั่นลืมนี่ทำให้ชีวิตวุ่นวายเร่งรีบแต่เช้า
จัดลำดับความสำคัญ
เลือกจัดลำดับวางแผน สิ่งไหนควรทำและจำเป็นต้องรีบทำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยๆเรียงลำดับความสำคัญลงไปเรื่อยๆ หากทำอะไรหลายๆอย่างไปพร้อมกัน อาจจะทำให้งานที่ทำออกมาได้ไม่เต็ม100 หรือต้องมาแก้ไขงานทำให้วุ่นวายมากกว่าเดิมอีกด้วย
มองโลกในแง่ดี
โลกจะเป็นแบบไหนขึ้นอยู่กับมุมมองของตัวเอง อยู่ที่เราจะเลือกมองแบบไหน การมองโลกในแง่ดีคือการสร้างความสุขให้กับตัวเองโดยไม่เสียเงิน ลองหันมาดูหรืออ่านเรื่องขำขัน ตลก ไม่ดูเรื่องจิตตก ข่าวฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุ เรื่องเศร้า เพราะจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีทำให้จิตตกตลอดวันอีกด้วย
สรุปการใช้ชีวิตแบบ slow life
8 ข้อที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นตัวอย่างหลักการใช้ชีวิตแบบ slow life ใครอยากจะลองใช้ชีวิตแบบนี้ สามารถนำไปลองได้ ซึ่งไม่ยาก ไม่ง่าย และไม่ได้เหมาะกับทุกคนเช่นกัน แต่ต้องดูความพร้อมบทบาทหน้าที่ของตนเองด้วย การใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ใหม่เท่านั้น ซึ่งมันมีอะไรมากกว่านั้น เพียงแค่เราปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตที่วุ่นวาย มาใช้ชีวิตที่ไม่เร่งรีบกันดีกว่า ที่นอกจะทำให้เป็นคนทันสมัยตามเทรนด์ ยังมาพร้อมกับความสุขด้วย
