หลายคนส่วนใหญ่ยังมีข้อสงสัยมากมายและเลือกตัดสินใจไม่ได้ว่า “รถเข็นไฟฟ้าแบบไหนดี และจะเหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด” เบื้องต้นให้สำรวจความต้องการก่อนว่า ต้องใช้งานรอบๆบริเวณบ้าน หรือเน้นการเคลื่อนย้าย พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ต่างๆ ถ้าเน้นการพกพาเราจะแนะนำเป็นรุ่นที่มีน้ำหนักเบา
รุ่นที่เป็นที่นิยมจะมีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่รุ่น CM-102AL , CM-112Light, CM-112Prime
สารบัญเนื้อหา
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างทั้ง 3 รุ่น
โครงสร้าง
วัสดุโครงสร้างของรุ่น CM-102AL ผลิตจากอลูมิเนียม ที่ให้คุณสมบัติ ไม่เป็นสนิม และมีน้ำหนักเบา 21 กก. เบาะรองนั่งกว้าง 45 ซม. ที่สามารถรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้สูงสุด 120 กก.
รุ่น CM-112Light โครงสร้างผลิตจากอลูมิเนียมเกรด 6 น้ำหนักเบา 15.8 กก. และไม่เป็นสนิม ทนต่อรอยขีดข่วนต่างๆ ส่วนขนาดเบาะกว้าง 43 ซม. ขนาดจะกะทัดรัดกว่า รุ่น CM-102AL และ CM-112Prime รองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้สูงสุด 100 กก. จึงเหมาะแก่ผู้ใช้งานที่เป็นเด็กหรือมีรูปร่างเล็ก
ส่วนรุ่น CM-112Prime โครงสร้างผลิตจากแมกนีเซียม ซึ่งเป็นวัสดุแบบเดียวกันกับที่ใช้ทำล้อแม็กซ์รถยนต์ จึงให้ความแข็งแรง อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาที่สุดในทั้ง 3 รุ่น ซึ่งตัวรถมีน้ำหนักเพียง 13.5 กก จึงสะดวกแก่การพกพา เคลื่อนย้ายไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
ขนาดล้อ
รุ่น CM-102AL ออกแบบมาให้มีล้อหลังใหญ่ขนาด 22 นิ้ว สามารถทำงานได้ 3 ระบบ ทั้งระบบไฟฟ้า มีผู้ช่วยเข็น และผู้ใช้งานสามารถใช้มือหมุนล้อเองได้ จึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้มือหมุนล้อเพื่อออกกำลังกาย หรือผู้ใช้งานที่มีกำลังแขน
ส่วนล้อหลังของรุ่น CM-112Light และ CM-112Prime เป็นล้อหลังแม็กซ์ขนาด 12 นิ้ว จึงทำให้ความกว้างของตัวรถมีขนาดเล็กกว่า ผู้ใช้งานสามารถขับเคลื่อนเข้า-ออกประตู หรือพื้นที่แคบได้สะดวก
ประเภทแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของรุ่น CM-102AL เป็นแบตเตอรี่กรดตะกั่ว ซึ่งเป็นประเภทเดียวกันกับแบตเตอรี่รถยนต์ ทำให้มีขนาดใหญ่และหนัก แต่ทั้งนี้แบตเตอรี่ของรุ่นนี้สามารถเลือกเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่ลิเธียม ที่มีน้ำหนักเบาลงได้เช่นกัน และเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้งสามารถใช้งานได้ประมาณ 25-30 กม.
ส่วนรุ่น CM-112Light และ CM-112Prime เป็นแบตเตอรี่ลิเธียม ซึ่งเป็นประเภทเดียวกันกับแบตเตอรี่โทรศัพท์ ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่า จึงเหมาะแก่การใช้งานที่เน้นการเคลื่อนย้าย และพกพาเป็นประจำ แต่แบตเตอรี่ของรุ่น CM-112Light มีประจุขนาด 24V 6Ah สามารถใช้งานได้ประมาณ 20 กม. ส่วนแบตเตอรี่ของรุ่น CM-112Prime มีประจุขนาด 24V 10Ah ซึ่งใช้เดินทางประมาณ 25-30 กม.
และทั้ง 3 รุ่น สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากไฟบ้านได้ทั่วโลก เพราะอะแดปเตอร์จะทำหน้าที่แปลงไฟ และในขณะที่ชาร์จไฟอยู่ ให้สังเกตสีไฟบนอะแดปเตอร์จะเป็นสีแดงหรือส้ม หากเต็มแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว
กำลังมอเตอร์
มอเตอร์ของรถเข็นไฟฟ้าจะมี 2 ประเภท คือ DC Brush Motor เป็นชนิดที่มีแปลงถ่าน และ DC Brushless Motor เป็นชนิดที่ไมมีแปลงถ่าน จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ซึ่งรถเข็นไฟฟ้ารุ่น CM-102AL ใช้มอเตอร์ DC Brush ที่มีกำลังข้างละ 250 วัตต์ทั้ง 2 ข้าง และรุ่น CM-112Prime ก็ใช้มอเตอร์ DC Brush เช่นเดียวกัน มีกำลังมอเตอร์ข้างละ 200 วัตต์ทั้ง 2 ข้าง ที่สามารถขึ้นทางลาดชันสูงสุดได้ 35 องศา ส่วนรุ่น CM-112Light เป็น DC Brushless ที่มีกำลังข้างละ 150 วัตต์ทั้ง 2 ข้าง สามารถใช้งานขึ้นทางลาดชันได้สูงสุด 20 องศา
แต่รถเข็นไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่น ติดตั้งทั้งมอเตอร์ทั้งซ้ายและขวา มีการทำงานแยกอิสระออกจากกัน สามารถบังคับทิศทางให้หมดอยู่กับที่ได้ โดยไม่ต้องตีวงเลี้ยวกว้าง
ระบบเบรก
ระบบเบรกของรถเข็นไฟฟ้ามีอยู่ 2 แบบ คือเบรกมือและเบรกไฟฟ้า ซึ่งการทำงานทั้ง 2 แบบเมื่อใช้งานบนพื้นราบ ปล่อยมือรถหยุดนิ่งทันที จะแตกต่างกันเมื่อใช้งานบนทางลาดชัน ระบบเบรกของรุ่น CM-102AL และ รุ่น CM-112Prime เป็นระบบเบรกมือ เมื่อขับเคลื่อนลงทางลาดชันรถจะค่อยไหลช้าๆ ส่วนรุ่น CM-112Light เป็นระบบเบรกไฟฟ้า ใช้งานบนทางลาดชัน ปล่อยมือรถหยุดนิ่งทันที
การพับเก็บและเคลื่อนย้าย
วิธีการพับเก็บรุ่น CM-102AL มีขั้นตอนแตกต่างจากอีก 2 รุ่น คือต้องถอดแบตเตอรี่ออกทุกครั้งที่ต้องการพับเก็บ ส่วนอีก 2 รุ่น สามารถพับเก็บได้โดยไม่ต้องถอดอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดๆ จึงสะดวกต่อผู้ใช้งานที่ต้องการพกพา เคลื่อนย้ายไปใช้งานนอกสถานที่เป็นประจำ
CM-102AL
วิธีการนำขึ้นเครื่องบิน
รถเข็นไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่น สามารถนำขึ้นเครื่องบิน ไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ หากผู้ใช้งานต้องการนำไปใช้งานต่างประเทศ ต้องติดต่อสายการบินล่วงหน้าอย่างน้อย 48 ชม.ก่อนเดินทาง เพื่อสอบถามเงื่อนไข กรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถเข็นไฟฟ้า เพื่อความรวดเร็วในการเช็คอินวันเดินทาง
ตัวรถและแบตเตอรี่ของรุ่น CM-102AL สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้เลย ส่วนอีก 2 รุ่น จำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ออกจากตัวรถ แล้วนำขึ้นเครื่องบิน ส่วนตัวรถให้โหลดใต้ท้องเครื่อง
ควรเลือกแบบไหนดี
โดยสรุปแล้วรถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบาทั้ง 3 รุ่น มีข้อแตกต่างกัน ทั้งวัสดุโครงสร้าง ขนาดล้อ ประเภทแบตเตอรี่ ประเภทมอเตอร์ และน้ำหนักของตัวรถ
โดยรวมแล้วรุ่น CM-102AL เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้มือหมุนล้อเอง และน้ำหนักของตัวรถอยู่ที่ 21 กก. และจำเป็นต้องถอดแบตเตอรี่ทุกครั้งเมื่อต้องการพับเก็บ จึงเหมาะแก่การเคลื่อนย้ายพกพาอาทิตย์ละครั้ง หรือนานๆครั้ง
ส่วนรุ่น CM-112Light น้ำหนัก 15.8 กก. พับเก็บง่ายโดยไม่ต้องถอดอุปกรณ์ สามารถพกพาได้สะดวก แต่เนื่องจากมีขนาดเบาะที่เล็กกว่ารุ่นอื่น และกำลังมอเตอร์น้อยกว่า จึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก หรือมีรูปร่างเล็ก
และสุดท้ายรุ่น CM-112Prime มีน้ำหนักเบาที่สุด 13.5 กก. เป็นน้ำหนักที่ผู้หญิงคนเดียวสามารถยกใส่ท้ายรถยนต์ได้ อีกทั้งการพับเก็บไม่ต้องถอดอุปกรณ์ จึงเหมาะแก่การพกพา เคลื่อนย้ายเป็นประจำ
“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรุ่นที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ลักษณะการใช้งานให้เหมาะกับผู้ใช้งานมากที่สุด”