รถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน รีวิวอย่างละเอียด

หากท่านวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวกับคนที่คุณรัก การเดินทางด้วยเครื่องบินถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก ในกรณีที่จำเป็นจะต้องนำ รถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน การทำความเข้าใจข้อกำหนด วิธีการในการนำ wheelchair หรือ รถเข็นผู้สูงอายุ ของแต่ละสายการบินที่ท่านเดินทางก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากแต่ละสายการบิน ไม่ว่าจะเป็น แอร์เอเชีย นกแอร์ หรือสายการบินอื่นๆ ก็จะมีข้อกำหนดรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันไป

หลายคนก็จะเกิดคำถามว่า คนพิการขึ้นเครื่องบินได้ไหม โดยวันนี้ Cruisemate จะทำการีวิว การนำวีลแชร์ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน รวมทั้ง จะแนะนำวิธีการตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน และสามารถที่จะช่วยกันเตรียมตัวได้ดีอีกด้วย

สารบัญเนื้อหา

• ข้อกำหนดรุ่นและสเปครถเข็นไฟฟ้าที่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้
  • แบตเตอรี่ ปัจจัยสำคัญ
  • ข้อกำหนดของสมาคมการบินสากล IATA
• วิธีการติดต่อสายการบินก่อนเดินทาง
• วิธีการCheck-In
• วิธีการเก็บรถเข็นไฟฟ้าก่อนขึ้นเครื่อง(ป้องกันความเสียหาย)
• สรุป

แบตเตอรี่ตัวแปรที่สำคัญ

เบื้องต้น เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินนั้น ก็จะมีขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับผู้ใช้งานและผู้โดยสารท่านอื่นๆ เนื่องจาก รถเข็นไฟฟ้า หรือ วีลแชร์ไฟฟ้าผู้สูงอายุนั้น คือรถเข็นที่ประกอบด้วยมอเตอร์ที่ใช้ในการขับเคลื่อน โดยมีแหล่งพลังงานในการขับเคลื่อน คือ แบตเตอรี่

ซึ่ง แบตเตอรี่ นี่แหละ จะเป็นสิ่งที่ผู้นำ วีลแชร์ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน ต้องทำความเข้าใจ

ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้ว แบตเตอรี่ของรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน ถือเป็น Power Bank หรือ อุปกรณ์สำรองไฟฟ้าอย่างหนึ่ง ซึ่งทางสายการบินก็จะกำหนดขนาดประจุ และ กำลังไฟ เพื่ออนุญาตในการเดินทาง

ซึ่ง แบตเตอรี่ ของ รถเข็นไฟฟ้านำขึ้นเครื่องบิน ก็เช่นกัน

กลับสู่ด้านบน

ข้อกำหนดของสมาคมการบินนานาชาติ IATA

คราวนี้ เราลองมาดูว่า ข้อกำหนดต่างๆ ที่กำหนดเกี่ยวกับ การนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินนั้น มีอะไรบ้าง

เมื่อเราเข้าไปดูที่ สมาคมการบินสากล หรือ IATA (The International Air Transport Association) ก็จะทราบข้อกำหนด ซึ่งทุกสายการบินต้องดำเนินการตาม  ของการกำหนดแบตเตอรี่ ดังนี้

IATA หรือ สมาคมการบินสากล ได้แบ่งผู้โดยสารที่มีประเภทความพิการออกเป็น 12 ประเภท ทั้งนี้ใน 3 ประเภทจาก 12 ประเภทนี้เป็นผู้พิการที่จำเป็นที่ต้องใช้รถเข็นผู้ป่วยเพื่อใช้ในการเดินทาง ในระดับที่แตกต่างกันไป

ซึ่งในข้อกำหนดของ IATA โดยข้อกำหนดทั่วไป ระบุไว้ว่า หาก รถเข็นผู้ป่วยของเขามีความปลอดภัยในการเดินทางโดยเครื่องบิน ทางสายการบิน เป็นที่จะต้องรับผู้โดยสารคนนั้นบนเครื่อง

จริงๆแล้วดูเหมือน รถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินจะไม่ได้เป็นวัตถุอันตราย  แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ เนื่องจากรถเข็นไฟฟ้ามีแบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแหล่งพลังงานในการขับเคลื่อน ซึ่งสามารถที่จะเป็นประกายไฟได้

ขอย้ำอีกครั้งว่าอาจจะเป็นประกายไฟได้  แค่ อาจจะ นะครับ

ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว มีโอกาสที่เป็นไปได้น้อยมาก

แต่อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่เราทุกคนให้ความสำคัญมากที่สุด

ดังนั้นรถเข็นไฟฟ้าจึงจำเป็นต้อง ผ่านข้อกำหนดดังต่อไปนี้ก่อน

กลับสู่ด้านบน

เมื่อผ่าน ข้อกำหนดที่กำหนดดังกล่าวข้างต้นนี้แล้ว ท่านก็สามารถที่จะนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินได้ และดำเนินการในขั้นต่อไป

สำหรับตัวอย่างของรถเข็นไฟฟ้าที่ผ่านข้อกำหนดเหล่านี้เช่นดังนี้ครับ

กลับสู่ด้านบน

รุ่นที่เหมาะเดินทางด้วยเครื่องบิน

-14%

รับนน.180kg

รถเข็นไฟฟ้าทุกรุ่น

รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา รุ่น CM-2055

฿69,500.00 Original price was: ฿69,500.00.฿59,500.00Current price is: ฿59,500.00.

-18%

เบรกไฟฟ้า

รถเข็นไฟฟ้าทุกรุ่น

รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา CM-2054

฿64,500.00 Original price was: ฿64,500.00.฿52,900.00Current price is: ฿52,900.00.

-44%

เบาสุด13.5kg

รถเข็นไฟฟ้าทุกรุ่น

รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา CM-112PRIME

฿55,500.00 Original price was: ฿55,500.00.฿30,900.00Current price is: ฿30,900.00.

กลับสู่ด้านบน

วิธีการติดต่อสายการบินก่อนเดินทาง

เมื่อท่านได้ทำการจองตั๋วแล้ว ท่านจำเป็นที่จะต้องโทรศัพท์ไปแจ้ง ทางสายการบิน ว่าจะมีรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินไปกับท่านด้วย เราควรแจ้งก่อนที่จะ เดินทางอย่างน้อย 48 ชั่วโมงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของสายการบินของแต่ละสาย และเมื่อทางสายการบินได้รับการแจ้งแล้ว ก็จะจัดเตรียมอำนวยความสะดวกให้กับท่าน

ด้วยนโยบายของสายการบินต่างๆจะแตกต่างกันออกไป บางสายการบิน จะขอให้ท่านกรอกเอกสารเล็กน้อยเพื่อเป็นการให้ข้อมูล

กลับสู่ด้านบน

วิธีการCheck-In รถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน

เมื่อคุณถึงสนามบินแล้ว ให้คุณทำการเช็คอินตามปกติ และทำการแจ้งกับทางสายการบินว่าคุณได้โทรมาแจ้งเกี่ยวกับการนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินล่วงหน้าแล้ว

ณ จุดนี้เอง ทางสายการบินหรือทางการท่าอากาศยาน จะนำรถเข็นไฟฟ้าของคุณไป และ จะจัดเตรียม รถเข็นผู้ป่วยแบบธรรมดา รถเข็นผู้สูงอายุ มาเปลี่ยนให้ท่านนั่ง เพื่อผ่านจุด ตรวจรักษาความปลอดภัย และนั่งวีลแชร์ขึ้นเครื่อง โดยคุณจะได้รับสิทธิพิเศษในการขึ้นเครื่องเป็นลำดับแรก และมีผู้ช่วยในการเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่นั่งของท่าน

เมื่อถึงท่าอาศกาศยานปลายทาง

ผู้โดยสารจะได้รับการช่วยเหลือให้นั่งวีลแชร์ผู้สูงอายุ ไปยังสถานที่สายพานรับกระเป๋า ซึ่งจะเป็นที่ที่รถเข็นไฟฟ้าที่โหลดใต้เครื่องบินของคุณ จะถูกนำมา ให้คุณณจุดนั้น

กลับสู่ด้านบน

วิธีการเก็บรถเข็นไฟฟ้าก่อนขึ้นเครื่อง (ป้องกันความเสียหาย)

เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ทางเราแนะนำให้ท่านทำ 3 อย่างดังต่อไปนี้ครับ

1.ไม่ควรนำรถเข็นไฟฟ้าหรือวีลแชร์ไฟฟ้าใส่กระเป๋า เพื่อถ้าใส่ในกระเป๋าเดินทาง หรือประเป๋าที่มีลักษณะมิดชิดแล้วนั้น เจ้าหน้าที่จะไม่เห็นว่าข้างในเป็นอะไร ซึ่งทำให้อาจเกิดความเสียหายที่เกิดจากการขนย้ายผิดวิธีได้ เช่น การตกหล่นจากที่สูง

2.แนะนำให้ห่อพลาสติก (Plastic Wrap) ที่หน้าสนามบิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เห็นว่า ข้างในเป็นวีลแชร์ไฟฟ้า (ซึ่งมีมูลค่า) ซึ่งจะช่วยให้มีการดูแล เทคแคร์การขนย้ายได้เป็นอย่างดี

3.ควรถ่ายรูปสภาพรถเข็นไฟฟ้า หรือ วีลแชร์ไฟฟ้าของท่านก่อนที่จะมอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการยืนยัน และหากเกิดความเสียหายท่านอาจมีสิทธิเรียกร้องจากสายการบินได้

กลับสู่ด้านบน

สรุป

โดยสรุป รถไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของท่านอีกต่อไป อีกทั้ง สายการบินย่อมอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านตามหลักความเท่าเทียมกัน

แต่ท่านจะต้อง ทำตามข้อกำหนดของสายการบิน เท่านั้นเอง

นั่นหมายความว่า ท่านต้องเลือกรุ่นรถเข็นไฟฟ้าให้ถูกตั้งแต่แรกเพื่อ เพื่อให้การเดินทางของท่านเป็นไปได้อย่างราบรื่น เพราะหากท่านเลือกซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าที่ไม่ผ่านข้อบังคับของสมาคมการบินสากล หรือ IATA แล้ว จะนำมาซึ่งผลกระทบที่ท่านไม่สามารถนำวีลแชร์ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินได้

เราแนะนำ รถเข็นไฟ้าที่มีแบตเตอรี่ไม่เกินกำหนดของ IATA ตามลิงค์นี้ครับ 

ในกรณีที่ท่านไม่แน่ใจว่ารถเข็นไฟฟ้ารุ่นใดหรือวีลแชร์ไฟฟ้ารุ่นใดสามารถที่จะนำขึ้นเครื่องได้ ท่านสามารถติดต่อทางบริษัทเราเพื่อรับข้อมูล โดยเรายินดีให้คำปรึกษาฟรีสามารถติดต่อเราได้ที่ 0970600221 ได้ตลอดเวลาครับ

แถมครับ

• คุณสามารถนำแบตเตอรี่วีลแชร์ขึ้นเครื่อง ได้ 1 อันซึ่งจะไม่เกิน 300 w h หรือแบตเตอรี่ 2 ก้อน ในกรณีที่แต่ละก้อนจะไม่เกิน 160 WH
• แบตเตอรี่ต้อง สามารถถอดออกได้และจำเป็นที่ผู้โดยสารจะต้องถือขึ้นในห้องโดยสารเพื่อป้องกัน ในกรณีที่เกิดประกายไฟ จะสามารถที่จะมีคนพบเห็นได้ และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที
• อุปกรณ์พิเศษอย่างอื่นเช่นถังออกซิเจน จะไม่เกี่ยวกับข้อกำหนดของ iota แต่จะขึ้นอยู่กับนโยบายของสายการบิน แต่ละสายที่ผู้โดยสารใช้งาน

กลับสู่ด้านบน